ปิโตรเลียม คืออะไร

ปิโตรเลียม คืออะไร ก๊าซ ไม่ว่าจะเป็นก๊าซธรรมชาติหรือก๊าซหุงต้ม (ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการแยกก๊าซธรรมชาติ) จะมีคุณสมบัติเป็นไอภายใต้อุณหภูมิและความดันบรรยากาศ ดังนั้นภาชนะหรือยานพาหนะที่ใช้ในการขนส่งก๊าซจึงต้องได้รับการออกแบบเป็นพิเศษ ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้ก๊าซระเหยเกิดขึ้นน้อยที่สุด

การขนส่งก๊าซต้องใช้ภาชนะ หรือยานพาหนะสำหรับขนส่งสายพานลำเลียงที่มีขนาดใหญ่กว่าการขนส่งน้ำมันดิบถึง 270 เท่า หากไม่เปลี่ยนสถานะก๊าซก่อน ดังนั้นการขนย้าย เคลื่อนย้าย หรือแม้แต่จัดเก็บก๊าซ จะต้องเปลี่ยนสถานะก๊าซเป็นของเหลวก่อน โดยการเพิ่มความดันหรือลดอุณหภูมิของก๊าซ ทำให้ต้นทุนการขนส่งก๊าซสูงกว่าการขนส่งน้ำมันประมาณ 4 เท่า

ปิโตรเลียมเป็นสารประกอบไฮโดรคาร์บอนเชิงซ้อน ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในชั้นหินใต้พื้นผิวโลก องค์ประกอบหลักคือไฮโดรเจนและคาร์บอน ซึ่งมาจากการสลายตัวของสารอินทรีย์ อีกทั้งยังอาจมีธาตุอื่นๆ เช่น ซัลเฟอร์ ออกซิเจน และไนโตรเจน อีกด้วย ปิโตรเลียมอาจเป็นของแข็ง ของเหลว หรือก๊าซก็ได้ ปิโตรเลียมจะมีคุณสมบัติติดไฟได้ ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบของปิโตรเลียม สภาวะความดัน และอุณหภูมิที่สะสมอยู่ เมื่อทำการกลั่นจะได้ผลิตภัณฑ์เช่นก๊าซหุงต้ม น้ำมันเบนซิน น้ำมันก๊าด น้ำมันดีเซล น้ำมันเตา และยางมะตอย ผลิตภัณฑ์กลั่นบางชนิดเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตน้ำมันหล่อลื่นและจาระบี รวมถึงสารเคมีต่างๆ เช่น ปุ๋ยเคมี ยาฆ่าแมลง พลาสติก และยางสังเคราะห์ เป็นต้น คำว่า “ปิโตรเลียม” มาจากคำภาษาละติน 2 คำ คือ “เพตรา” (Petra) ซึ่งแปลว่าหิน และคำว่า “โอเลียม” ” (โอเลียม) ซึ่งแปลว่าน้ำมัน

การขนส่งลำเลียงโดยเรือบรรทุก ปิโตรเลียม คืออะไร

ปิโตรเลียม คืออะไร  การขนส่งทางเรือ เป็นวิธีการขนส่งน้ำมันและก๊าซในปริมาณมากในแต่ละครั้ง ส่งผลให้ต้นทุนเฉลี่ยต่อครั้งลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการขนส่งระยะทางไกล ลักษณะโดยทั่วไปของเรือบรรทุกคือเรือบรรทุกแบบเปิด ภายในตัวเรือแบ่งออกเป็นช่องต่างๆ ทั้งแนวยาวและแนวขวาง เปรียบเสมือนถังน้ำมันทรงสี่เหลี่ยมหลายใบวางเรียงกันอยู่ในเรือ ทั้งนี้เพื่อเพิ่มความสมดุลและความปลอดภัย เช่น หากเกิดอุบัติเหตุเรือรั่วได้ทุกจุด จะไม่ทำให้เรือจมทั้งลำ นอกจากนี้การแบ่งพื้นที่บรรทุกสินค้าจะมีประโยชน์อีกด้วย เพื่อให้สามารถบรรทุกสินค้าได้หลายประเภทโดยไม่ต้องผสม

สำหรับเรือบรรทุกแก๊ส การออกแบบถังพิเศษจะต้องได้รับการออกแบบให้แตกต่างออกไป ดังนั้นจึงแทบจะกล่าวได้ว่าเรือบรรทุกน้ำมันและก๊าซ ได้รับการออกแบบมาในรูปแบบที่ทันสมัย และมีความล้ำหน้ากว่าเรือบรรทุกสินค้าประเภทอื่นๆ เพื่อความปลอดภัยในการขนส่ง เรือบรรทุกน้ำมันและก๊าซ สามารถแบ่งออกเป็นหมวดหมู่ตามปริมาณสินค้าน้ำมันและก๊าซ รวมถึงลักษณะการใช้งาน ตั้งแต่เรือขนาดเล็กที่ใช้ขนส่งน้ำมันในแม่น้ำและลำคลอง (Barge) ไปจนถึงเรือเดินทะเลขนาดใหญ่ (Tankers) ที่สามารถขนส่งน้ำมันและก๊าซได้ สามารถผลิตได้มากกว่า 500 ล้านลิตรต่อครั้ง

การขนส่งน้ำมันและก๊าซโดยใช้รถบรรทุก เป็นวิธีการขนส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมสำเร็จรูปแบบโบราณไปยังผู้ใช้ ลักษณะทั่วไปของถังน้ำมันและแก๊สของรถบรรทุกน้ำมันและแก๊ส มีลักษณะคล้ายกับถังที่ใช้ขนส่งน้ำมันทางราง นั่นคือมันจะเป็นถังทรงกระบอกรูปไข่ ภายในถังแบ่งเป็นช่องตามเส้นแนวนอนซึ่งนอกจากจะเป็นการเพิ่มความแข็งแกร่งของถังแล้ว และลดแรงกระแทกของน้ำมันในถัง อีกทั้งยังทำให้สามารถขนส่งน้ำมันหลายประเภทได้ในคันเดียวโดยไม่ต้องผสมกัน

นอกจากการขนส่งทางเรือแล้ว รถไฟยังใช้ขนส่งน้ำมันอีกด้วย ถือเป็นวิธีการที่สามารถขนส่งน้ำมันได้ในปริมาณมากในแต่ละครั้งอีกด้วย การขนส่งน้ำมันโดยทางรถไฟส่วนใหญ่ใช้สำหรับการขนส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมสำเร็จรูปในระยะทางไกลที่ไม่สามารถขนส่งทางเรือได้

ถังน้ำมันในปัจจุบันเป็นถังเหล็กทรงกระบอก กลม หรือวงรีที่วางอยู่บนตู้รถไฟ ภายในถังแบ่งเป็นช่องตามเส้นแนวนอนเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของถังและลดแรงกระแทก เกิดจากการน้ำมันกระเซ็นระหว่างการขนส่ง

ผลิตภัณฑ์จากก๊าซธรรมชาติ

  • ก๊าซมีเทน (Methane หรือ C1) ใช้เป็นเชื้อพลิงผลิตกระแสไฟฟ้า เชื้อเพลิงในรถยนต์ (NGV) และโรงงานอุตสาหกรรม
  • ก๊าซอีเทน (Ethane) โพรเพน (Propane) และบิวเทน (Butane) ใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมขั้นต้น เช่น เม็ดพลาสติกโพลิเอทิลีน (PE) เม็ดพลาสติกโพลิโพพิลีน (PP) และเป็นสารตั้งต้นในการผลิตสารเติมแต่งต่าง ๆ
  • ก๊าซหุงต้ม (Liquefied Petroleum Gas: LPG) ใช้เป็นเชื้อเพลิงในครัวเรือน
  • ก๊าซโซลีนธรรมชาติ (Natural Gasoline: NGL) ใช้เป็นน้ำมันสำเร็จรูปและตัวทำละลาย
  • ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ใช้ในอุตสาหกรรมถนอมอาหารทั่วไปและการถนอมอาหารระหว่างการขนส่ง อุตสาหกรรมน้ำอัดลมและเบียร์ และนำมาทำให้อยู่ในรูปของแข็งที่เรียกว่าน้ำแข็งแห้ง Dry Ice และใช้ทำฝนเทียม เป็นต้นปิโตรเลียม คืออะไร
  • ไฮโดรคาร์บอนเหลว (Heavier Hydrocarbon) ใช้เป็นคอนเดนเสท (condensate)

บทความที่เกี่ยวข้อง