พลังงานทดแทน

พลังงานทดแทน พลังงานหมุนเวียนโดยทั่วไปหมายถึงพลังงานที่ทดแทนเชื้อเพลิงฟอสซิล เช่น ถ่านหิน ปิโตรเลียม และก๊าซธรรมชาติ ซึ่งปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ในปริมาณมหาศาลซึ่งก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน [1] ตัวอย่างของพลังงานหมุนเวียนที่สำคัญ ได้แก่ พลังงานลม พลังงานน้ำ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานน้ำขึ้นน้ำลง พลังงานคลื่น พลังงานความร้อนใต้พิภพ เชื้อเพลิงชีวภาพ พลังงานน้ำมันดิบ พลังงานน้ำมันปาล์ม พลังงานน้ำมันพืช เป็นต้น ในปี 2555 ประเทศไทยใช้พลังงานหมุนเวียนเพียง 18.2% ของพลังงานทั้งหมด ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า ซึ่งพลังงานแสงอาทิตย์และเชื้อเพลิงชีวภาพเพิ่มขึ้น 23% แต่พลังงานจากฟืน ถ่านไม้ แกลบ และเศษวัสดุทางการเกษตร ซึ่งใช้เป็นเชื้อเพลิงแบบดั้งเดิม ลดลง 10% [2] (อาจเป็นเพราะชีวมวลดังกล่าวได้ถูกแปลงเป็นเชื้อเพลิงชีวภาพไปแล้ว)

พลังงานหมุนเวียนอีกประเภทหนึ่งคือพลังงานที่สามารถผลิตได้อย่างต่อเนื่อง (renewable) (เช่น ลมมวลแรกผ่านกังหันลม ลมมวลใหม่จะตามมาอย่างต่อเนื่อง เป็นต้น) เรียกว่า พลังงานหมุนเวียน (renewable energy) ได้แก่ แสงอาทิตย์ ลม น้ำ ไฮโดรเจน เป็นต้น (หนังสือบางเล่มระบุว่าชีวมวลก็เป็นพลังงานหมุนเวียนเช่นกัน ขึ้นอยู่กับว่าสามารถผลิตซ้ำได้อย่างต่อเนื่องหรือไม่)

ตามแผนพัฒนาและส่งเสริมพลังงานหมุนเวียน 15 ปี ระหว่างปี 2549-2564 มีแผนใช้พลังงานหมุนเวียนคิดเป็นร้อยละ 20 ของพลังงานทั้งหมด การศึกษาและพัฒนาพลังงานหมุนเวียน คือ การศึกษา วิจัย ทดลอง พัฒนา และสาธิต ตลอดจนการส่งเสริมและเผยแพร่พลังงานหมุนเวียนซึ่งเป็นพลังงานสะอาด ไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และเป็นแหล่งพลังงานในท้องถิ่น เช่น พลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ ชีวมวล เป็นต้น เพื่อผลิตและใช้งานอย่างแพร่หลาย มีประสิทธิภาพ และเหมาะสมทั้งในด้านเทคโนโลยี เศรษฐกิจ และสังคม

ประเภทของ พลังงานทดแทน

พลังงานทดแทน สำหรับผู้ใช้ในเมืองและชนบท การศึกษา วิจัย และพัฒนาพลังงานหมุนเวียนดังกล่าว ยังรวมถึงการพัฒนาเครื่องมือ อุปกรณ์ และอุปกรณ์ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด การศึกษาและพัฒนาพลังงานหมุนเวียนเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาพลังงานหมุนเวียน ซึ่งมีโครงการที่เกี่ยวข้องกับแผนนี้โดยตรง คือ โครงการศึกษาวิจัยพลังงาน และเชื่อมโยงกับแผนพัฒนาชนบท ในโครงการจัดทำระบบผลิตไฟฟ้าจากแบตเตอรี่เซลล์แสงอาทิตย์สำหรับหมู่บ้านชนบทที่ไม่มีไฟฟ้า การศึกษาและพัฒนาพลังงานหมุนเวียนจะเป็นงานประจำที่มีกิจกรรมต่างๆ โดยทั่วไป

เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียนทั้งในด้านองค์ความรู้เชิงทฤษฎี อุปกรณ์การทดลองและการทดสอบ รวมทั้งการส่งเสริมและเผยแพร่ ซึ่งจะสนับสนุนและสนับสนุนความพร้อมในการจัดตั้งโครงการใหม่ในโครงการวิจัยด้านพลังงานและโครงการอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น การวิจัยเบื้องต้น การติดตามความคืบหน้าและประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพัฒนาต้นแบบ การทดสอบ วิเคราะห์และประเมินความเหมาะสมเบื้องต้น และส่งเสริมการพัฒนาโครงการที่กำลังดำเนินการให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น รวมถึงสนับสนุนโครงการที่ดำเนินการแล้วให้นำผลมาส่งเสริม เผยแพร่ และใช้งานได้อย่างเหมาะสม

ประโยชน์ของพลังงานหมุนเวียน ปัจจุบันหลายประเทศทั่วโลกพยายามศึกษาค้นคว้าพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถนำไปใช้ได้และมีประสิทธิภาพมากกว่าพลังงานทั่วไป ช่วยประหยัดต้นทุน ลดมลภาวะและสิ่งแวดล้อมโลก และประหยัดพลังงาน ดังนั้น พลังงานหมุนเวียนหรือพลังงานทางเลือกจึงเป็นพลังงานที่สามารถนำมาใช้ทดแทนพลังงานทั่วไปได้อย่างไม่จำกัด นอกจากนี้ยังสามารถพบได้ในธรรมชาติและสามารถนำกลับมาใช้ใหม่เพื่อช่วยลดปัญหาการขาดแคลนพลังงานและลดมลภาวะได้อีกด้วย

ประโยชน์ของพลังงานทดแทน

พลังงานความร้อนใต้พิภพคือแหล่งพลังงานธรรมชาติที่มีอุณหภูมิสูงถึง 5,000 องศาเซลเซียส ซึ่งถูกกักเก็บไว้ใต้พื้นผิวโลกเหมือนปิโตรเลียม สามารถนำมาใช้ผลิตไฟฟ้าได้โดยการถ่ายเทความร้อนจากน้ำร้อนที่ได้ไปยังของเหลวหรือสารที่มีจุดเดือดต่ำจนระเหยเป็นไอแล้วหมุนกังหันน้ำเพื่อจ่ายพลังงานให้กับเครื่องปั่นไฟ

  • พลังงานหมุนเวียนสามารถนำมาใช้ทดแทนเพื่อการบริโภคและการบริโภคได้ไม่มีวันหมด
  • ช่วยปรับปรุงสิ่งแวดล้อม ลดปัญหามลภาวะ ลดการผลิตก๊าซเรือนกระจกที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน
  • ช่วยปรับปรุงเศรษฐกิจภายในประเทศและกระจายรายได้เมื่อมีการผลิตพลังงานเพื่อใช้เองโดยไม่ต้องนำเข้าเชื้อเพลิงฟอสซิลหรือเชื้อเพลิงจากต่างประเทศ
  • ช่วยลดปัญหาการขาดแคลนทรัพยากรในอนาคต
  • ช่วยลดผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์ ทำให้ผู้คนมีอายุยืนยาวและมีสุขภาพดีขึ้น เนื่องจากหันมาใช้พลังงานสะอาดที่เป็นมิตรต่อร่างกาย

แม้ว่าพลังงานหมุนเวียนจะเป็นแหล่งพลังงานบางชนิดที่ได้มาจากแหล่งธรรมชาติและมีมากมาย แต่ก็ไม่สามารถนำมาใช้ได้ตลอดเวลาและไม่เพียงพอต่อความต้องการของมนุษย์ อาจต้องใช้เวลาหลายร้อยปีจึงจะกลับมาเกิดขึ้นซ้ำอีกพลังงานทดแทน

การเติบโตของจำนวนประชากรทำให้มนุษย์มีความตระหนักรู้ต่อปัญหาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ดังนั้นการใช้พลังงานหมุนเวียนจึงเป็นวิธีหนึ่งในการรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะช่วยให้มนุษย์มีอายุยืนยาวขึ้นและไม่สร้างความเสียหายให้กับโลก เนื่องจากช่วยลดการใช้พลังงานที่มีผลกระทบเชิงลบต่อโลกและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก อย่างไรก็ตาม การใช้พลังงานขึ้นอยู่กับรูปแบบการใช้ชีวิตของมนุษย์ เพื่อให้คนรุ่นต่อไปมีทรัพยากรเพียงพอต่อการใช้งาน เราควรศึกษาวิจัยเกี่ยวกับพลังงานหมุนเวียนเพื่อให้สามารถนำไปใช้ได้อย่างยั่งยืน และฉันเชื่อว่าในอนาคตมนุษย์จะก้าวกระโดดในด้านวิวัฒนาการด้านพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าเดิมอย่างแน่นอน

บทความที่เกี่ยวข้อง